วัดไชยวัฒนาราม บางครั้งเรียกว่า “วัดไชยยาราม” และ “วัดไชยชนะทาราม”เป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นวัดอรัญวาศรี ณ บริเวณที่ดินซึ่งเป็นนิวาสสถานของพระราชชนนีในปีที่ขึ้นครองราชย์ คือปีมะเมีย พ.ศ.2173 สันนิษฐานว่าเป็นวัดประจำรัชกาลด้วยต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ใช้วัดนี้ในฐานะเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี
สำหรับพระราชทานเพลิงศพของพระราชวงศ์และขุนนางผู้สูงศักดิ์

ในปี พ.ศ.2299 กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย ได้ถูกกล่าวโทษว่าเสด็จเข้ามาทำชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลย์ในพระราชวังหลายครั้ง สืบสวนได้ความเป็นสัตย์จริง จึงลงพระราชอาญาเฆี่ยนทั้งสองพระองค์จนดับสูญแล้วนำศพไปฝังไว้ ณ วัดไชยวัฒนารามทั้งสองพระองค์ศาสนสถานและปูชนียวัตถุภายในวัดไชยวัฒนาราม ประกอบด้วยปรางค์ประธาน ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลาง ?เพื่อสื่อแทนเขาพระสุเมรุ รอบปรางค์มีบันไดขึ้นสู่เรือนธาตุที่มีมุขยื่นออกทั้งสี่ด้าน ยอดปรางค์แบบกลีบขนุน ทำรัดประคดซ้อนกัน 7 ชั้น ข้างปรางค์ประธานล้อมรอบด้วยปรางค์บริวารทั้งสี่ สื่อแทนทวีปที่มีอยู่ทั้งสี่ โดยตั้งอยู่บนลานประทักษิณเดียวกันเมรุทิศเมรุราย เป็นเมรุทรงปราสาท ที่สื่อถึงจักรวาลอื่นๆ ตั้งอยู่ล้อมรอบปรางค์ประธาน โดยมีด้วยกัน 8 องค์ ซึ่งเมรุทิศตั้งอยู่บริเวณมุม ส่วนเมรุรายตั้งกึ่งกลางระหว่างเมรุทิศ เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงคด ภายในเมรุทิศเมรุราย ประดิษฐานด้วยพระพุทธรูปปูนปั้นทรงเครื่องปางมารวิชัย ที่อยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนบนเป็นฝ้าเพดานไม้ประดับดาว บริเวณผนังเคยมีภาพจิตรกรรมรูปใบไม้ใบกนก ที่ปัจจุบันได้เลือนลางไป บริเวณผนังภายนอกประดับด้วยปูนปั้นแสดงเรื่องพุทธประวัติ บริเวณระเบียงคดประดิษฐานด้วยพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย พระอุโบสถ ตั้งอยู่ด้านหน้าปรางค์ประธาน เป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ที่เหลือเฉพาะส่วนของฐาน ภายประดิษฐานพระพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย บนฐานชุกชีเป็นประธาน
เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ ที่มีด้วยกัน 2 องค์ ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่บรรจุพระอัฐิพระราชมารดาและพระราชบิดาของพระเจ้าปราสาทอง
เจดีย์เจ้าฟ้ากุ้ง (เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์) ตั้งอยู่ด้านข้างระเบียงคด เป็นเจดีย์ทรงระฆัง ภายในบรรจุพระอัฐิเจ้าฟ้ากุ้ง
ปรางค์เจ้าแม่วัดดุสิต พระนมของสมเด็จพระนารายณ์ เป็นปรางค์องค์เล็ก มีบันไดสู่ซุ้มเรือนธาตุ
การเดินทาง
ทางเรือ ท่านอาจเช่าเหมาเรือหางยาวจากบริเวณหลังลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระราชวังจันทรเกษมด้านตะวันออกของเกาะเมือง ล่องไปตามลำน้ำป่าสักลงไปทางใต้ผ่านวิทยาลัยการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิงวรวิหารวัดพุทไธศวรรย์ โบสถ์โปรตุเกส วัดไชยวัฒนาราม วัดกษัตราธิราชวรวิหารและเจดีย์พระศรีสุริโยทัย
ทางรถยนต์ สามารถใช้เส้นทางเดียวกับวัดกษัตราธิราช แต่พอข้ามสะพานวัดกษัตราธิราชไปแล้วให้เลี้ยวขวาแล้วตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นวัดไชยวัฒนารามตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ทางด้านหน้า
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น.
ค่าเข้าชม ชาวไทย10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท
หรือสามารถซื้อบัตรรวมได้ ชาวไทย 60 บาท ชาวต่างประเทศ 180 บาท
โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ภายในระยะเวลา 30 วัน อันได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์และพระราชวังหลวง วัดมหาธาตุวัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดไชยวัฒนาราม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยาและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม
หมายเหตุ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30น.- 21.00น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น